My Diary

                                               
      มีคน 2 คนเป็นเพื่อนซี้กัน..ต่างร่วมเดินทางไปในทะเลทรายด้วยกันระหว่างทางเกิดโต้เถียงขัดแย้งไม่เข้าใจกัน เพื่อนคนหนึ่งพลั้งลงมือตบหน้าอีกฝ่ายคนถูกทำร้ายเจ็บปวดแต่ไม่เอ่ยวาจากลับเขียนลงบนผืน ทรายว่า วันนี้ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้าพวกเขายังคงเดินทางต่อกระทั่งถึงแหล่งน้ำพวกเขาตัดสินใจอาบน้ำชำระกายพลันคนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำเพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ ข้าช่วยชีวิต คนรอดตายยังคงไม่เอ่ยวาจากลับสลักลง ไปบนหินใหญ่… ‘วันนี้เพื่อนรักช่วยชีวิตฉัน ไว้อีกคนไม่เข้าใจถาม ว่า… ‘เมื่อถูกฉันตบหน้าเธอเขียนลงทรายแล้วทำไมเมื่อครู่ต้องสลักบนหินอีกคนยิ้มพรายกล่าว ตอบ เมื่อถูกเพื่อนรักทำร้ายเราควรเขียนมันไว้บนทราย ซึ่งสายลมแห่งการให้อภัยจะทำหน้าที่พัดผ่านลบ ล้างไม่ เหลือแต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมายบังเกิดเราควรสลักไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจซึ่งจะไม่มีสายลมแรงเพียงใดลบล้างทำลาย….’


       


             การจะอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น ต้องใช้เหตุและผล เป็นสิ่งสำคัญ ……. การเป็นคนที่มีเหตุผล  ทำให้เรารู้จักและยอมรับในกฎเกณฑ์ของสังคมและอยู่ร่วมกันในสังคมได้ แต่ระหว่างเพื่อน “ ถ้าใช้แค่เพียงเหตุผลอาจจะไม่พอเพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ด้วยกันทั้งนั้น และเมื่อต่างยึดมั่น ในเหตุผลของตนเองทัศนคติก็จะไม่ตรงกัน ทำให้เพื่อน ลืมไป  ว่าเราเป็นอะไรที่มากกว่า แค่  “คนรู้จักกันและสิ่งที่สำคัญกว่าเหตุผลคือ ความเข้าใจ แม้ทัศนคติจะไม่ตรงกัน แต่เพื่อนก็อยู่ด้วยกันได้
         
แค่ทำความเข้าใจในตัวตนของกันและกัน  และสิ่งนี้แหละทำให้เกิดคำว่าเพื่อน “  ทำให้เราเป็น    มากกว่าแค่  “คนรู้จักกัน


                                                         

คุณค่าของคำว่าเพื่อน คือสิ่งที่ช่วยให้คุณมองเห็นค่าของมิตรภาพ หากมีเพื่อนแท้แม้เพียงสักหนึ่งคน เท่ากับว่าคุณได้เติมชีวิตให้เต็มเปี่ยม ทำไมชีวิตที่มีเพื่อนช่างเป็นชีวิตที่แสนดี คุณอาจถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซาฮารา และลมอาจพัดเอาฝุ่นทรายเข้าตา แต่คุณยังคงจำลายมือของเพื่อนที่คุณรักที่สุดได้ คุณมีใครสักคนที่บ่นให้ฟังได้เสมอ คุณใส่เสื้อผ้าที่ดูแย่ที่สุดเมื่ออยู่กับเพื่อนได้ เมื่อคุณเล่าความลับให้เพื่อนฟัง เพื่อนจะเก็บไว้เป็นความลับ เพื่อนจะไม่ถือสาหาความ แม้ว่าคุณจะโทรไปปลุกแต่เช้า เมื่อเพื่อนถามคุณว่า สบายดีหรือเปล่า? คุณไม่จำเป็นต้องตอบว่า " สบายดี " คุณสามารถตั้งคำถามโง่ ๆ กับเพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่หัวเราะเยาะคุณ เพื่อนอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่ากฎหมายจะว่าอย่างไร เพื่อนจะนินทาคนอื่นในแบบที่คุณนินทาเสมอ คุณสามารถยกเลิกอาหารมื้อค่ำได้ โดยที่ไม่ถูกตัดพ้อต่อว่าจากเพื่อน เสื้อผ้าของเพื่อน ก็เหมือนเสื้อผ้าของคุณยืมใช้กันได้เสมอ ถ้าไม่มีเพื่อน สมุดจดที่อยู่ก็ว่างเปล่านะสิ เพื่อนจะไม่บ่น ถ้าคุณยืนกินอาหารในครัว แทนที่จะนั่งบนเก้าอี้ให้เรียบร้อย